มะยม |
ชื่ออื่นๆ : | หมักยม หมากยม ยม |
ชื่อสามัญ : | Star gooseberry |
ชื่อวิทยาศาสตร์ : | Phyllanthus acidus Skeels. |
วงศ์ : | Euphobiaceae |
ถิ่นกำเนิด : | เขตร้อนของทวีปแอฟริกา |
ลักษณะทั่วไป : | ไม้พุ่มโปร่งขนาดกลาง เจริญเติบโตช้า |
ฤดูการออกดอก : | ต้นฤดูฝน (ปลาย เม.ย. – พ.ค.) |
การขยายพันธุ์ : |
| การตอน เป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด จากการทดลองตอนต้นขนาดใหญ่อายุประมาณ 10 ปียังสามารถออกรากได้ และออกดอก ติดผลได้ในปีแรกหลังการปลูกกิ่งตอน |
| การเพาะเมล็ด เป็นวิธีการที่ทำได้ง่าย แต่ต้องใช้เวลาในการให้ผลผลิตยาวนานกว่าการตอน |
|
ข้อดีของพันธุ์ไม้ : |
| เป็นผลไม้ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายทาง เช่น การรับประทานผลสด ผลแห้ง การแช่อิ่ม |
|
ข้อแนะนำ : |
| มะยมเป็นพันธุ์ไม้ที่มีใบร่วงมาก ในพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดมากจึงไม่ควรปลูก |
|
ข้อมูลอื่นๆ :
|
| ราก รสจืด แก้โรคผิวหนัง ผดผื่นคัน ช่วยซับน้ำเหลืองให้แห้ง ประดง ดับพิษเสมหะ |
| เปลือกต้น รสจืด สรรพคุณแก้ไข้ทับระดู ระดูทับไข้ และแก้เม็ดผดผื่นคัน |
| ใบ รสจืดมัน ปรุงเป็นส่วนประของยาเขียว สรรพคุณแก้ไข้ ดับพิษไข้ บำรุงประสาท ต้มร่วมกับใบหมากผู้หมากเมียและใบมะเฟืองอาบแก้คัน ไข้หัด เหือด และสุกใส |
| ดอก ดอกสดใช้ต้มกรองเอาน้ำแก้โรคในตา ชำระล้างในตา |
| ผล รสเปรี้ยวสุขุม กัดเสมหะ แก้ไอ บำรุงโลหิต และระบายท้อง |
| การทำมะยมเชื่อม ดูที่ http://www.eto.ku.ac.th/neweto/e-book/other/t_food.pdf |
| มีความเชื่อว่า มะยมเป็นต้นไม้ที่ควรปลูกไว้ทางทิศตะวันตก (ประจิม) เพื่อป้องกันความถ่อย และผีร้ายมิให้มากล้ำกราย ในบางตำราก็ว่า เป็นต้นไม้ที่มีชื่อเป็นมงคลนาม ปลูกแล้วผู้คนจะได้นิยมเหมือนมีนะเมตตา มหานิยม
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น